บ่อนรกแห่งเบปปุเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ที่ใครมาเยือนเมืองนี้ต้องไม่พลาด ด้วยลักษณะของบ่อน้ำพุร้อนที่มีสีสันและรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ทำให้ถูกเรียกรวมกันว่า “บ่อนรก” หรือ “จิโกกุ” ซึ่งหมายถึง “นรก” ในภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เป็นเพียงชื่อเรียกขานตามลักษณะของบ่อเท่านั้นเอง
เมืองเบปปุซึ่งตั้งอยู่บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในด้านกิจกรรมความร้อนใต้พิภพที่น่าทึ่ง ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวมากมาย “บ่อน้ำพุร้อนนรกแห่งเมืองเบปปุ” (จิโกกุ) ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด บ่อน้ำพุร้อนที่มีชีวิตชีวาและร้อนระอุเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับอาบน้ำ แต่มีไว้สำหรับชื่นชมความงามอันเป็นเอกลักษณ์และปรากฏการณ์ภูเขาไฟ
บ่อน้ำพุร้อนอันน่าตื่นตาตื่นใจทั้งเจ็ดแห่ง
อุมิจิโกกุ (นรกแห่งท้องทะเล)อุมิจิโกกุเป็นบ่อน้ำพุร้อนสีน้ำเงินโคบอลต์อันโดดเด่น ซึ่งมีสีคล้ายกับทะเล สระน้ำมีอุณหภูมิประมาณ 98°C (208°F) และสวนที่อยู่รอบๆ ก็ให้ความรู้สึกสงบเงียบตัดกับน้ำที่ร้อนระอุ
โอนิอิชิโบซุจิโกกุบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มีบ่อโคลนเดือดปุดๆ คล้ายกับหัวโกนของพระสงฆ์ในศาสนาพุทธ จึงเป็นที่มาของชื่อ “โบซุ” โคลนสีเทาเดือดสร้างบรรยากาศลึกลับและน่าหลงใหล
ชิราอิเกะจิโกกุ (บ่อนรกสีขาว)ชิราอิเกะจิโกกุขึ้นชื่อในเรื่องน้ำสีขาวขุ่นที่เกิดจากปริมาณแคลเซียมสูง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเขตร้อนภายในสถานที่เพิ่มความแปลกใหม่แต่ก็น่าประทับใจให้กับการเยี่ยมชม
คามาโดจิโกกุ (หม้อนรก)คามาโดจิโกกุจัดแสดงบ่อน้ำเดือดและโคลนหลากสีสัน นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารว่างที่ไม่เหมือนใครที่ปรุงโดยใช้ไอน้ำจากความร้อนใต้พิภพ เช่น ไข่นึ่งและพุดดิ้ง
โอนิยามะจิโกกุ (ภูเขานรกปีศาจ)โอนิยามะจิโกกุมีชื่อเสียงในเรื่องไอน้ำที่ทรงพลังซึ่งสามารถดึงรถไฟได้ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของจระเข้จำนวนมากที่เพาะพันธุ์ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น
ชิโนอิเกะจิโกกุ (บ่อนรกสีเลือด)ชิโนอิเกะจิโกกุเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีสระน้ำสีแดงสดใสเนื่องมาจากออกไซด์ของเหล็กในดินเหนียว สีที่ดูน่ากลัวทำให้เป็นหนึ่งในนรกที่สวยงามที่สุด
ทัตสึมากิจิโกกุ (บ่อน้ำพุร้อน)ทัตสึมากิจิโกกุเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ปะทุขึ้นทุกๆ 30-40 นาที โดยพ่นน้ำร้อนขึ้นสู่ท้องฟ้า การปะทุของบ่อน้ำพุร้อนเป็นประจำจะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มาเยือน
วิธีการเยี่ยมชม
บ่อน้ำพุร้อนเบปปุแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่หลัก ได้แก่ เขตคันนาวะและเขตชิบาเซกิ โดยบ่อน้ำพุร้อนส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปได้ในคันนาวะ ส่วนบ่อน้ำพุร้อนชิโนอิเกะและทัตสึมากิจิโกกุตั้งอยู่ในเขตชิบาเซกิ ผู้เยี่ยมชมสามารถซื้อตั๋วรวมเพื่อเข้าชมบ่อน้ำพุร้อนทั้ง 7 แห่งได้ ทำให้สะดวกและคุ้มค่า
เคล็ดลับสำหรับผู้เยี่ยมชม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม: ฤดูใบไม้ร่วงมีอากาศเย็นสบายและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ซึ่งช่วยเพิ่มเอฟเฟกต์ไอน้ำ
การขนส่ง: สามารถเดินทางไปยังเบปปุได้โดยรถไฟหรือรถบัส และรถบัสท้องถิ่นจะเชื่อมต่อบ่อน้ำพุร้อนทั้งสองแห่งได้อย่างสะดวก
อาหารท้องถิ่น: อย่าพลาดที่จะลองชิมอาหารนึ่ง โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงโดยใช้ไอน้ำจากความร้อนใต้พิภพ
ของที่ระลึก: อย่าลืมดูผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทำจากโคลนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและไอน้ำจากน้ำพุร้อน
การไปเยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อนเบปปุจะทำให้คุณได้สัมผัสกับพลังความร้อนใต้พิภพของโลกได้อย่างลึกซึ้ง บ่อน้ำพุร้อนแต่ละแห่งมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครและน่าหลงใหล ทำให้เบปปุเป็นจุดหมายปลายทางที่ยากจะลืมเลือนสำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้แสวงหาการผจญภัย หากคุณเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมเพิ่มบ่อน้ำพุร้อนเบปปุลงในแผนการเดินทางของคุณเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเงียบสงบ